วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เกร็ดความรู้เรื่องรถบดล้อยาง

    
    

วันนี้ขอเสนอเกล็ดความรู้สำหรับการใช้รถบดล้อยาง

          รถบดล้อยางมีความสำคัญมากต่อการทำงานถนน นอกจากจะบดอัดถนนได้สภาพแน่นดีแล้ว ยังมีความสามารถช่วยในเรื่องของการจัดเรียงโครงสร้างภายในของเม็ดดินได้ดี ลดการแตกหักของโครงสร้างเม็ดดิน ทำให้คุณสมบัติทางวิศวกรรมสมบูรณ์ คือ เพิ่มการต้านทานแรงเฉือน(Shear resistance) ลดการคืนรูป ปริมาตรดินที่ถูกบดอัดลดลง(Compressibility)  ลดการแตกร้าวเนื่องจากการหดตัว (Shrinkage Crack)  ป้องกันการซึ่มผ่านของน้ำ (Permeability)

          แต่ในทางปฏิบัติผู้รับเหมามักไม่นิยมใช้รถบดล้อยาง เหตุผลอันเนื่องมาจากให้ความแน่นได้ช้า กว่ารถบดสั่นสะเทือน Vibrator Roller รถบดล้องยางใช้เชื้อเพลิงมาก กว่าจะทำให้ดินแน่นได้ตามต้องการ หรือหากต้องการให้ทำงานได้ระยะเวลาอันรวดเร็วก็จักต้องเพิ่มจำนวนรถให้มากขึ้น

          นอกจาก Vibrator Roller จะลดเวลา/ลดเชื้อเพลิงได้ดีแล้ว ยังแสดงผลลัพธ์ของงานได้ดี(เมื่อสังเกตุด้วยตา Visual Test) เมื่อช่างควบคุมมาตรวจงานก็จะให้ผ่านได้ง่ายขึ้น (ความคิดของผู้รับจ้างคิดเช่นนั้น...) โดยเฉพาะช่างควบคุมที่ยังมีประสบการณ์น้อย หรือช่างที่บรรจุรับราชการใหม่ๆแต่จำเป็นต้องได้ออกไปคุมงานเพราะเจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด ขาดความรู้จากการถ่ายถอดงานที่ดี ก็จะเจอปัญหาแบบนี้อยู่เสมอ .... แม้แต่ตัวผมเองผู้เขียนก็เป็นเช่นนั้น กว่าจะรู้ต้องอาศัยการเฝ้าสังเกตุอยู่หลายโครงการ แต่นั้นเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องเท่าที่ควรเพราะงานอาจจะเสียหายจากการทดลองทำได้
          หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วมาตรฐานละ ทำไมไม่อ่านหรือปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด ก็ขออนุุญาต ตอบ...แบบเด็กหน้าซื่อ จากประสบการณ์ที่อ่าน หรือที่เจอตามสภาพหน้างาน ^_^

          1) อ่านแล้ว งง ทั้งๆที่ภาษาในมาตรฐานก็เขียนไว้เข้าใจง่าย แต่ งง ที่ เจอการทำงานจริงแล้วผิดรูปแบบไปเลย แต่ได้ผลรับเหมือนกัน คือ...ดินมันก็แน่นดีแฮะ อย่างเช่นการฉีกปูบดอัด "คนเป็นช่างคงเข้าใจคำนี้"

          2) สภาพการก่อสร้างแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน สภาพของวัดุสุที่ใช้ต่างกัน "ไอ้" สภาพของวัสดุที่ต่างกันยังพอเข้าใจได้ในเชิงวิศวกรรม แต่สภาพก่อสร้างไม่เหมือนกันนิละซิ ต่างกันตรงไหน เช่น ถนนสายนั้นมีปริมาณการจราจรหนาแน่น หากแก้ไข้หรือทำงานตามมาตรฐานแล้วส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนกับ...ชาวบ้าน (ภาษาราชการเรียกว่าผู้ใช้ถนน ) เดือดร้อนยังไง เช่น ฝุ่นละออง ไม่สะดวกการสัญจรช้าลง ไม่สบายขับผ่านแล้วมันเด้งซ้ายทีขวาที"ถนนดิสโก้" และสภาพแวดล้อมปิด เมื่อฝนตหนักกมองไม่ชัดอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดทรัพย์สินเสียหาย ไม่ก็ถึงขั้นรุนแรงแก่ชีวิต ซึ่งจุดนั้นผมเข้าใจว่าสำคัญกว่ามาตรฐานเป็นแน่แท้

          สิ่งที่กล่าวไปเบื้องต้นเป็นความรู้สึกของช่างอย่างผม และผมก็คิดว่าช่างหลายๆคนก็เป็นเช่นนั้น อยากให้งานออกมาดีที่สุดแต่มันทำได้เท่าเนี้ย เฮ้ย... ผมจึงต้องการแชร์ความรู้ผ่าน Blog นี้เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อช่างรุ่นต่อๆไป โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่ยังด้อยประสบกาณ์ได้มีความรู้ เมื่อได้ทำงานแล้วความผิดพลาดจะได้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ตามลำดับการณ์นี้นะครับ

1) ช่างหลายคนคงไม่รู้ (ไม่ว่าจะจบใหม่หรือประสบการณ์น้อยหรือลืมไปก็ตาม) แต่ผมขออนุญาติเตือนว่า รถมันเพิ่มน้ำหนักได้ครับ....เอ๋เพิ่มยังไง ถุงทรายหรอผมเคยเห็นครับ เอาถุงทรายใส่เพิ่มน้ำหนักรถจะได้เพิ่มขึ้น คิดแบบผมเปี๊ยบตอนยังไม่รู้เพราะเห็นเขาทำกันแบบนั้น  แต่ตอนนี้รู้ล่ะ จริงๆเจ้ารถบดล้อยางนะครับสามารถเพิ่มน้ำหนักโดยใช้น้ำเติมเข้าไปได้ ปกติรถบดล้อยางเปล่าๆหนัก ประมาณ 6-8 ตัน เมื่อเติมน้ำใส่ในรถน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10-13 ตัน ขึ้นอยู่กับรุ่นและขนาดรถ หรืออาจได้น้ำหนักมากกว่าที่ผมเขียน เพราะเท่าที่ผมเจอประกอบกับแอบขึ้นไปดูเสปครถ แกล้งคุยกับคนขับบ้างเพื่อสังเกตุความรู้สึกเมื่อรถบดผ่านชั้นวัสดุ จึงทำให้ได้ข้อมูลมา
... การใช้ถุงทรายเพิ่มน้ำหนักได้ก็จริงนะครับ แต่หากคิดดีๆแล้ว ถุงหนึ่งให้คนยกไหวก็น่าจะไม่เกิน 50 กก. หากต้องการให้เพิ่ม 2000 กก.เราต้องใช้ถุงทรายถึง 40 ถุง เรียงกันเป็นบังเกอร์ออกรบเลยครับ ...^_^
อีกทั้งการแผ่กระจายน้ำหนักก็คงสู้ แบบที่เจ้าของผู้ผลิตออกแบบมาไม่ได้หรอกครับ ไม่อย่างงั้นเขาคงเขียนลงในคู่มือการใช้หรือติดข้อความไว้กับเสปครถให้เราได้เห็นกัน...

2) รถบดล้อยางมีล้อสองแบบที่เห็นกันคือ เอาไว้นวด...กับเอาไว้นาบ แฮะๆ อย่าพึ่งคิดไปไกล นวดก็คือ การนวดให้วัสดุจัดเรียงตัวได้ดีปกติใช้ล้อยางที่มีจำนวน 9 ล้อ ส่วน นาบ คือบดให้เรียบ ลดร่องล้อที่เกิดจากรถบด 9 ล้อบดผ่าน

3) ที่นี้รู้ได้ไงละว่า Vibrator Roller  เนี้ยบดได้แน่นดีสามารถตบสายตา ช่างคุมงานผู้น้อยๆได้  ข้อนี้ขอตอบตามประสบการณ์หน่อยนะครับ เท่าที่ทดสอบด้วย Field Density Test แบบ Sand Cone มาแล้ว พบว่าการใช้ Vibrator Roller  ให้ผลแน่นมากในความลึก 10 ซม.แรก เมื่อระดับลึกลงไปกลับพบว่ามีสภาพหลวมมากขึ้นตามความหนาของการบดอัด ยกตัวอย่างเช่นบดอัดที่ความหนาในการล้มกองคือ 20 ซม.แบบทีเดียว "ตบกันให้จมกันไปเลย" จะพบว่า 10 ซม.แรก แน่นมากหากใช้ฆ้อนตอกกับเหล็กเจาะบางครั้งเล่นเอาด้ามฆ้อนเกือบหัก แต่พอเจาะเลย 10 ซม.นี้ไป แหมมมันชั่งง่ายเหมือนการแซะขนม คิคิ... นี่ละเมื่อเอาตัวเลขมาคำนวณตามวิธี Field Density Test แบบ Sand Cone แล้วกลับได้ตัวเลขผ่าน เพราะว่าการทดสอบนี้มันได้ค่าความแน่นเฉลี่ยทั้งหลุมเจาะที่เราเจาะขึ้นมา แต่ไม่ได้การันตรีว่าจะไม่เกิดการทรุดตัวในภายหลังนะครับ "ในรูปแบบการทดลองนี้ผมต้องขอขอบพระคุณผู้ใหญ่; วิศกรที่มากด้วยประสบการณ์ในหน่วยงานผม ที่ท่านได้กำหนดให้พวกกระผมใช้เครื่องมือการทดสอบนี้เพราะอะไรหรือ ... ก็เพราะว่ามันสามารถเห็นถึงวัสดุที่มีอยู่ในเบื้องล่างนั้นด้วยว่าควรบดเพิ่มหรือไม่ เป็นวิธีที่เหมาะที่สุดสำหรับงานทางในบ้านเรา

4) " หลงเข้าใจผิดเพราะความรีบร้อน" ประโยคนี้ผมขอใช้กับผู้รับเหมาบางรายนะครับ ผู้รับเหมามักเข้าใจว่าการใช้ Vibrator Roller  เพียงอย่างเดียวก็ทำให้ลดเวลา ลดพลังงาน แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่นะครับ หากเราไปอ่านในสเปคเชิงวิชาการตาม Text Book จะพบว่ารถแต่ละชนิดเหมาะสมกับดินแบบไหน...ที่ความหนาเท่าไร... จำนวนรอบการบดควรใช้เท่าไร... แล้วละก็ จะพบว่ามีแต่แนะนำให้ใช้ร่วมกันตามความสามารถของเครื่องจักร อ่าว...แล้วใช้ยังไงล่ะ...ก็เป็นคำถามต่อไปอีก หากเราสังเกตุด้วยประสบการณ์ก็จะพบว่าทำไมดินบางประเภทยิ่งบดยิ่งทำให้เม็ดดินแตกหัก และก็ไม่แน่นสักที แบบนี้ล่ะครับที่เรียกว่าใช้เครื่องจักรไม่เหมาะสมเปลืองทั้งพลังงาน และเวลาทำให้ต้องเพิ่มรอบการบดมากขึ้นแถมยังเพิ่มรอบแล้วก็ยังไม่แน่นกับทำให้หลวมซะอีก (ภาษาช่างเรียกว่า "ปั๊ม" ผลจะขออธิบายหลักการปั๊มให้ได้อ่านในครั้งต่อไปน่ะครับ ) ตรงนี้ละหากว่ารู้จักเครื่องจักรใช้เครื่องจักรได้ถูกประเภทแล้ว ก็จะลดรอบของการบดไปอัตโนมัติ ทำให้เชื้อเพลิงลดลง ใช้เวลาการทำงานไม่มาก ผูดกันง่ายก็คือ ต้องรู้จักรวางแผนการใช้เครื่องจักรชนิดเข้าใจถึงความสามารถ อย่ามองแต่ผลกำไรกับความสามารถเพียงบางส่วนของเครื่องจักรเพียงอย่างเดียว แล้วท่านผู้รับเหมาก็จะประหยัดได้จากการทำงานเอง ผลงานดีไม่เสียหาย ไม่ต้องตามซ่อมในภายหลังให้เหนื่อยใจ...^_^

ผมขอจบปัญหาที่เคยได้พบมาไว้เท่านี้ก่อน หากนึกขึ้นได้เพิ่มเติมประการใดจะมาเพิ่มให้ช่างๆ ผู้สนใจได้อ่านเพื่อเพิ่มความรู้กันต่อไปน่ะครับ

ทุกข้อความที่เขียนไปอาจมีข้อบกพร่อง หากผู้ที่มีประสบการณ์ ต้องการแนะนำเพิ่มเติมผู้เขียนก็พร้อมที่จะน้อมรับความรู้ดังกล่าวด้วยใจจริง ^_^

สุดท้ายนี้ขอฝากไว้สำหรับผู้ตรวจการทุกหน่วยงาน...พวกกระผมเป็นช่างทำงานด้วยความตั้งใจน้ำใสใจจริง มีจิตวิญญาณของความเป็นช่าง ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เราทุกคนชาวช่างไม่ได้ตั้งใจให้เกิด พวกเราพร้อมที่จะปรับปรุงในสิ่งที่ทำให้ดีขึ้นให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพราะปัจจัยที่บีบคั้นและกดดันพวกเราในหลายทางพวงเราจึงเลือกที่จะทำตามสภาพการณ์ที่เหมาะสม ขอได้โปรดเห็นใจ

โดย"วิศวกรแอมพีริเคิล"

2 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ9 กรกฎาคม 2566 เวลา 16:12

    การถมดิน3เมตร ใช้เครื่องจักรแบบไหนที่จะทำให้พื้นดินแนนและควรถมชั้นละกี่ซม.

    ตอบลบ